การกลับมาระบาดของโรคโควิด-19 หลังสงกรานต์ 2566 ซึ่งเป็นสายพันธ์ุ XBB.1.16 หรือ โควิดอาร์คทูรัส (Arcturus) เป็นสายพันธุ์ย่อยแยกมาจากโอไมครอน ที่กำลังออกอาละวาดกว่า 22 ประเทศ ทั้งออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ หรือ อินเดีย จนทำให้มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นทั่วโลก รวมถึงผู้ป่วยใหม่ในไทยที่เพิ่มขึ้นถึง 2.5 เท่า โดยมีผู้ป่วยที่ต้องสวมท่อหายใจ และมีผู้เสียชีวิตแล้วจากอาการโควิดสายพันธุ์ดังกล่าว
เราสามารถสังเกตอาการโควิดอร์คทูรัส คือ “อาการตาแดง” ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน ต่างจากการระบาดทุกรอบที่ผ่านมา แต่อาการตาแดงเกิดขึ้นจากหลายเหตุปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ฝุ่น pm 2.5 ภูมิแพ้ การเล่นน้ำที่ไม่สะอาด ผงแป้ง หรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ เข้าตา แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ตาแดงแบบไหนคืออาการตาแดงโควิด หรือ เป็นตาแดงจากสาเหตุอื่น ๆ เรามีข้อเปรียบเทียบมาให้เพื่อน ๆ นักอ่าน ได้นำไปใช้เป็นข้อสังเกต ดังต่อไปนี้ค่ะ
ลักษณะอาการตาแดงโควิด
- เยื่อบุตาอักเสบ
- ระคายเคืองตา
- คันตา
- ตาบวม แดง
- ตาแฉะ มีขี้ตา
- ตาสู้แสงไม่ได้
- น้ำตาไหล
นอกจากนี้ยังมีอาการโควิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เจ็บคอ คันคอ ระคายเคืองในลำคอ คัดจมูก ไอ มีไข้สูง เป็นหวัด ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ลิ้นไม่รับรส จมูกไม่ได้กลิ่น ไม่สบายท้อง
ลักษณะอาการตาแดงจากภูมิแพ้
อาการตาแดงจากภูมิแพ้จะคล้ายกับอาการตาแดงโควิด แต่จะมีข้อแตกต่างด้วยเช่นกัน
- คันตา
- ระคายเคืองตา
- แสบตา
- น้ำตาไหล
- ตาแดง
- มีขี้ตา
- เปลือกตาบวม แดง หรือ อักเสบ
- รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมใต้เปลือกตา
สาเหตุอาการตาแดงจากภูมิแพ้ เกิดจากการถูกปัจจัยต่าง ๆ กระตุ้น ก่อให้เกิดการอักเสบ ระคายเคือง หรือแพ้ เช่น อาหารทะเล ธัญพืช เนื้อสัตว์ นม ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ขนสัตว์ สภาพอากาศ สารเคมี เครื่องสำอาง น้ำหอม เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา รวมไปถึง อาการโรคประจำตัวดั้งเดิมกำเริบ เช่น โรคหอบหืด โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง โรคจมูกอักเสบ หรือ โรคระบบทางเดินหายใจ เป็นต้น
ลักษณะอาการโรคตาแดง
- ตาแดง
- หนังตาบวม
- ระคายเคืองตา
- น้ำตาไหล
- มีขี้ตา
- เจ็บคอ
- อ่อนเพลีย
- (อาจ) มีไข้
- (อาจ) มีเลือดออกที่ตาขาว
- ต่อมน้ำเหลืองที่หน้า หรือ ใบหูโต กดแล้วเจ็บ
- มักจะเริ่มเป็นที่ตาข้างหนึ่งก่อน แล้วจึงค่อยลามไปอีกข้าง
- มักจะติดต่อไปยังคนรอบข้าง หรือ ผู้ที่อยู่ใกล้ชิด
นอกจากนี้ โรคตาแดง มักจะพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน โดยสวนใหญ่มักเกิดการระบาดในชุมชนที่อาศัยกันแออัด หรือมีผู้คนอยู่ร่วมกันจำนวนมาก เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก สระว่ายน้ำ ที่ทำงาน ซึ่งโรคตาแดงสามารถพบได้ในทุกวัย แต่จะพบมากในเด็ก เนื่องจากเป็นวัยที่ขาดความระวังและการป้องกันตนเอง และความรุนแรงโรคตาแดงมีไม่มาก สามารถหายได้เอง
จากข้อเปรียบเทียบที่เราได้นำมาฝากนี้ แม้ว่าลักษณะอาการตาแดงจะมีความคล้ายกันหลายอย่าง แต่ก็มีบางอย่างที่แตกต่างกัน ซึ่งนำไปสังเกตและเฝ้าระวัง พร้อมกับดูแลตัวเอง เมื่อเริ่มรู้สึกระคายเคืองตา ตาแดงผิดปกติ ให้รีบสังเกตว่าตรงกับลักษณะอาการตาแดงแบบไหนกันแน่ หรือรีบไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจวินิจฉัย จะได้รับการรักษาที่เหมาะสมและทันท่วงที ก่อนที่จะสายเกินไปดีกว่าค่ะ