ทำไมหลายคนเลือกที่จะซื้อทองเก็บไว้มากกว่าออมเงิน บางคนทั้งเก็บทองและออมเงิน หรือเลือกที่จะทำการลงทุนทองคำ 

แม้ว่าจุดประสงค์การเก็บทองของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป แต่จะผ่านไปกี่ยุคสมัย ทองคำ ก็เป็นที่ต้องการเสมอ อีกทั้งแนวโน้มราคาทองก็มีแต่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากราคาทองคำตกก็ไม่มาก แต่ก็จะดีดราคาสูงพุ่งขึ้นแทบทะลุเพดาน ให้นักช้อนทองที่เก็บทองเก็งกำไรได้ลุ้นอยู่เสมอ นอกจากนี้ ทองคำ ยังเป็นตัวช่วยแก้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นข้อดีของการเก็บทองที่สำคัญมาก ๆ 

1. เก็บแทนเงินสด 

ข้อนี้ดีมาก ๆ สำหรับใครที่เก็บเงินสดยาก โดยเฉพาะคนที่เก็บเงินไม่อยู่ ห้ามใจเรื่องการใช้เงินไม่เก่ง แนะนำว่าควรหันมาเก็บทองคำแทนการเก็บเงินสด หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องการมีวินัยในการเก็บออมเงิน โดยการเก็บทองแทนการเก็บเงิน ทำได้เหมือนกับการฝากเงินประจำกับธนาคาร เปลี่ยนจากการสะสมเงินเป็นการสะสมทองคำ โดยใช้โปรแกรมออมทอง คือ ทะยอยซื้อทองสะสมทุกเดือน ทำให้ได้ราคาเฉลี่ย และเมื่อออมทองครบตามกำหนดก็สามารถเบิกทองมาเก็บไว้ที่ตัวเอง หรือจะขายคืนเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เช่นกัน 

2. ใช้เป็นทุนสำรอง 

หากต้องการจะลงทุนธุรกิจ หรือต้องการพัฒนา ปรับปรุง ต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีอยู่ แต่เงินทุนหรือเงินเก็บไม่พอ สามารถนำทองคำมาใช้เป็นสินทรัพย์ซัพพอร์ตแทนเงินสดได้ แม้ว่าทองคำจะไม่มีเงินปันผล ไม่มีดอกเบี้ยให้เหมือนกับสินทรัพย์อื่น ๆ แต่ราคาส่วนต่างในตลาดทองคำ ถือว่าคุ้มค่าในการเก็บไว้ลงทุน และใช้เก็บไว้เป็นทุนสำรองต่าง ๆ รวมถึงเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือไว้ใช้ในยามเกษียณ 

3. ทดแทนอัตราเงินเฟ้อ 

อัตราเงินเฟ้อ คือ ภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้ค่าของเงินมีมูลค่าลดลง เพราะเมื่อไรที่เกิดภาวะเงินเฟ้อ หมายถึงบริการและสินค้าราคาแพงขึ้น ทำให้ต้องใช้เงินมากขึ้น ซื้อของชิ้นเดิมแต่ต้องจ่ายเงินมากขึ้นกว่าเดิม อาจทำให้เงินเก็บที่มีอยู่ไม่พอต่อการดำรงชีวิต ซึ่งตรงกันข้ามกับทองคำ ยิ่งเงินเฟ้อสูง ราคาทองสูงตามไปด้วย ดังนั้น ถ้ามีการเก็บทองคำไว้ จะช่วยแก้ไขภาวะเงินเฟ้อได้ดีกว่าเงินสด 

4. กระจายความเสี่ยง 

ราคาทองคำไม่เปลี่ยนไปตามราคาสินค้าอื่น ๆ การเก็บทอง จึงเป็นสินทรัพย์ทางเลือก ช่วยกระจายความเสี่ยงได้ เพราะหากเกิดวิกฤตทางการเงิน ภาวะเงินเฟ้อ เศรษฐกิจโลกแปรปรวน หรือประสบปัญหาทางการลงทุน เช่น หุ้นเงินกู้ ตราสารหนี้ พันธบัตร หรือตัวใดตัวหนึ่งที่ลงทุนไว้ขาดทุน จะได้มีทองคำเอาไว้เป็นหลักประกันและทุนสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินได้ เนื่องจากทองคำเป็นที่ต้องการตลาดโลก จึงสามารถแลกเปลี่ยนมูลค่าได้ทั่วโลก ต่อให้ค่าเงินอ่อนตัว แต่ก็ยังอุ่นใจเพราะมีทองคำเป็นทุนสินทรัพย์

5. ใช้เป็นของขวัญมูลค่าสูง 

ทองคำ สามารถเก็บไว้เป็นมรดกตกทอดได้ทุกรุ่น ทั้งในรูปแบบทองคำแท่งและทองรูปพรรณ หลายครั้ง ทอง ถูกใช้มอบของขวัญในวันสำคัญหรือเทศกาลต่าง ๆ เช่น ของขวัญวันเกิด ของขวัญในวันรับปริญญา ของขวัญวันตรุษจีน ของกำนัลหรือสินสอดวันแต่งงาน และการให้ทองเพื่อรับขวัญสมาชิกใหม่ เป็นต้น ซึ่งผู้ได้รับสามารถนำทองไปต่อยอดทางการเงินอีกทอดหนึ่ง หรือใช้เป็นทุนตั้งต้นในชีวิตในด้านอื่น ๆ ได้

6. ใช้ในยามเจ็บไข้ได้ป่วย 

การเจ็บป่วยสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การวางแผนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นของทุกครอบครัว เพราะเราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ยิ่งปัจจุบันมีปัจจัยก่อโรคได้ง่ายและมากกว่าเมื่อก่อน ทั้งอากาศแปรปรวน ฝุ่นควัน มลพิษ โรคระบาด อุบัติเหตุ หรือแม้แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้าย เช่น กินอาหารที่มีไขมันสูง พักผ่อนไม่พอ นอนน้อย เป็นต้น

ซึ่งโรคร้ายบางชนิดก็มีค่าจ่ายใช้สูง และประกันสังคม หรือประกันสุขภาพ อาจไม่ครอบคลุม หรือช่วยได้ไม่เต็มที่ ส่วนเงินเก็บที่เป็นเงินสดอาจไม่เพียงพอในบางช่วงวิกฤติ เพราะเงินสดใช้ง่าย จ่ายคล่อง หากไม่มีการวางแผนให้รัดกุม เงินสดที่เก็บไว้ก็หมดไปได้ง่ายเช่นกัน การเก็บทองคำ จึงนับว่าเป็นอีกวิธีที่สามารถนำมาใช้รองรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้